บทความน่ารู้จาก CEO
Money Game ทำลายธุรกิจ! (ตอนที่ 1/2)
คำว่า “Money Game” เป็นเรื่องที่คุ้นหูอยู่แล้วสำหรับผู้คนในแวดวงตลาดเงิน-ตลาดทุน แต่คำใหม่ที่เพิ่มเข้ามาตอนนี้คือ “Money Game ทำลายธุรกิจ” เป็นเรื่องที่ต้องรับฟังและยิ่งต้องศึกษาให้ดี พร้อมกับการนำไปปรับใช้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับบริษัทของท่าน..ด้วยเหตุที่ว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ กับบริษัทจดทะเบียน และที่ผ่านมามีหลายแห่งตกเป็นเหยื่อไปแล้ว!!!
ขอไม่เอ่ยชื่อว่าเป็นบริษัทใดบ้าง..เพราะเชื่อว่าผู้คนในแวดวงของเราต่างรู้อยู่แล้วว่าเป็น บจ.ไหน??? สำหรับท่านที่ไม่รู้จริงๆ แนะนำว่าสามารถสอบถามเพื่อนๆ ในวงการได้เลย
เรื่องแบบนี้มักจะเกิดกับบริษัทที่มีจุดอ่อนทางธุรกิจหรือทางสถานะการเงินในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงสตอรี่และการกระทำของตัวผู้บริหารเองที่ผูกโยงเกี่ยวกับตลาดทุนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการนำหุ้นส่วนตัวไปวางค้ำประกันเพื่อขอมาร์จิ้น
เรื่องราวมักจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการปล่อยข่าวลือเชิงลบออกมา เพื่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อการลงทุน จากนั้นจะเริ่มมีแรงเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง จนไปนำไปสู่จุดที่เรียกว่า “Panic Sell” ซึ่งอาการนี้เข้าขั้นโคม่าแล้ว!! เพราะเป็นจุดที่ไม่สนใจเรื่องเหตุผลหรือข้อเท็จจริงใดๆ โดยอารมณ์ของผู้ลงทุนในห้วงเวลานั้นคือเอาตัวรอดไว้ก่อน หุ้นพื้นฐานดีหรือไม่ดี!! ค่อยว่ากันทีหลัง จังหวะนี้ต้องขายหุ้นออกมาแล้วเก็บเป็นเงินสดไว้ก่อน..ยังมีเวลาสำหรับการช้อปปิ้งเลือกลงทุนในหุ้นดีๆ ซึ่งมีอีกมากมายในตลาดหุ้นโดยมีหุ้นมากกว่า 900 ตัวให้เลือก
องค์ประกอบที่ทำให้นำไปสู่สถานการณ์ “Money Game ทำลายธุรกิจ” จากการประเมินคร่าวๆ มาจาก 5 ส่วนหลักๆ คือ
- บริษัทมีจุดอ่อน ด้านปัญหาการทำธุรกิจ ผลประกอบการไม่ดี ฐานะการเงินอ่อนแอ มีภาระหนี้สิน ที่อาจจะก่อให้เกิดเป็นปัญหาขึ้นในอนาคต
- ผู้บริหารนำหุ้นของตนเองไปวางค้ำประกันเพื่อขอมาร์จิ้น เพื่อนำเงินไปลงทุนอื่นๆ
- ตลาดหุ้นมีธุรกรรมในการยืมหุ้น-ชอร์ตหุ้น-เล่นหุ้นขาลง
- ปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างวิกฤตศรัทธา
- ผู้บริหารไม่ให้ความสำคัญต่อการสื่อสารเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทันกับสถานการณ์
บทเรียนที่เกิดขึ้นกับบริษัทที่โดน “Money Game ทำลายธุรกิจ” จะมีองค์ประกอบข้อ 1-5 ร่วมด้วยแน่นอน สัญญาณแรกที่มาก่อนคือ “เกิดข่าวลือเชิงลบ” บริษัทที่โดน!!! ส่วนใหญ่ เพราะผู้บริหารเพิกเฉยต่อข่าวลือเชิงลบและไม่ให้ความสำคัญกับสัญญาณนี้ โดยให้เหตุผลว่า..ก็แค่ข่าวลือ ถ้าตั้งใจทำงานแล้วพิสูจน์ฝีมือ พิสูจน์ผลงาน เดี๋ยวความจริงก็ปรากฎ จากนั้นนักลงทุนที่เคยหวั่นไหวขายหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ก็จะกลับเข้ามาซื้อลงทุนใหม่อีกครั้งนั่นแหล่ะ!!
***ยังไม่จบนะคะ..รอติดตามต่อตอนที่ 2 นะ เป็นการเล่าแบบละเอียดว่า “Money Game” เข้าไปทำลายธุรกิจได้อย่างไร?