บทความน่ารู้จาก CEO

ระยะนี้ดูเหมือนหุ้น IPO เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นแล้วไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ ในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ เมื่อเข้ามาเทรดมักจะเปิดเหนือราคาจอง แต่หลังจากนั้น 2-3 วันต่อมาก็มักจะหลุดต่ำกว่าราคาจอง แต่ตอนนี้หนักขึ้นกว่านั้นอีกคือ เข้าเทรดปุ๊บ..ต่ำจองปั๊บ!!

เมื่อเป็นเช่นนี้มีคำถามมาว่า..แล้วในมิติของการทำงาน IR-PR ยังต้องทำต่อหรือไม่? เพราะมีบางท่านมองว่าที่ผ่านมาก็ได้ทำมาเยอะแล้ว ผลยังออกมาเป็นแบบนี้ แล้วจะทำต่อไปทำใม? อืม!! น่าคิดเหมือนกันนะ!!

แต่อย่างแรกที่พี่อยากจะเล่าคือ การที่หุ้น IPO จะประสบความสำเร็จเมื่อเข้าซื้อขายในตลาด (หมายถึงราคาในกระดานสูงกว่าราคาจองไอพีโอ) หรือไม่นั้น??? จริงๆ แล้วมีหลายส่วนที่ประกอบเข้าด้วยกัน อาทิ 1.ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ 2.ศักยภาพในการทำกำไรและเทรนด์ของธุรกิจในอนาคต 3.ศิลปะในการการจัดพอร์ตหุ้นไอพีโอให้กับกลุ่มนักลงทุน 4.ความเหมาะสมของการกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอ 5.สภาวะการลงทุนของตลาดหุ้นในช่วงเวลานั้นๆ 6.การทำงานด้าน IR-PR เพื่อการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากที่เอ่ยมาเบื้องต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายประกอบกันเข้าไป หนึ่งในนั้นคือเรื่องศาสตร์การดูฤกษ์งามยามดีเพื่อกำหนดวันเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น จุ๊-จุ๊!!! เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง แม้จะพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้..แต่หลายครั้งมีจังหวะที่หุ้น IPO เข้าซื้อขายวันแรกในสภาวะที่ตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย แต่ก็สามารถเปิดตลาดและยืนเหนือราคาจองได้

สำหรับน้องใหม่ไอพีโอป้ายแดง..เมื่อเข้าตลาดหุ้นแล้ว ราคาต่ำกว่าจองแล้ว พี่แนะนำว่าบริษัทยิ่งต้องทำงาน IR-PR เพื่อสื่อสารประเด็นที่ต้องการไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องนี้เราแยกออกจากกัน 2 อย่างคือ 1.ประเด็นที่ต้องสื่อสาร และ 2.สื่อสารอย่างต่อเนื่อง

1. ประเด็นที่ต้องสื่อสาร มีความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยในจังหวะที่เกิดวิกฤติศรัทธาต่อการลงทุนหุ้นของเรานั้น ทางรอดคือ “เรียกศรัทธากลับคืนมาให้ได้” แล้วประเด็นที่ต้องสื่อสารมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างบางตอนนะคะ อาทิเช่น แผนการรุกธุรกิจในอนาคต ส่งสัญญาณในเรื่องของการสร้างรายได้-กำไรให้เติบโตขึ้น โชว์ความเก่งกาจและวิชั่นของผู้บริหารให้เป็นที่ประจักษ์ ลงทุนกับหุ้นของเราแล้วมองเห็นอนาคต มองเห็นเงินปันผลหรือแคปปิตอลเกณฑ์ที่จะคาดหวังได้ เหล่านี้เป็นต้น

2. สื่อสารอย่างต่อเนื่อง สำหรับการทำงาน IR-PR ต้องการทำสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่โหมเป็นพายุซัดกระหน่ำได้ผลรอบเดียวจบ การทำแบบนี้จะได้นักลงทุนที่เป็นประเภทนักเก็งกำไรระยะสั้นๆ แต่นี่คืองานสร้าง TRUST เราต้องการกลุ่มผู้ลงทุนที่เข้าใจธุรกิจ พร้อมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกันแบบยาวๆ จึงต้องให้เวลากับกลุ่มเป้าหมายในการตรวจสอบและพิสูจน์ว่าบริษัทของเรามีคุณสมบัติเพียงพอที่เค้าจะควักเงินออกมาลงทุนร่วมกับเรา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และต้องรู้ว่าช่วงเวลาไหน-ต้องทำอะไร-สื่อสารอะไร จังหวะไหนต้องเน้นหนัก-จังหวะไหนต้องเบาๆ

เห็นมั้ยคะว่างาน IR-PR มีความสำคัญมิใช่น้อยเลย!!! จริงๆ มันไม่ใช่งานยาก ..แต่ก้อไม่ใช่งานง่ายด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ความสามารถจริงๆ เข้ามาช่วยดูแลในจุดนี้ “ไออาร์ เน็ตเวิร์ค” เราคือมืออาชีพด้านนี้ เราผ่านงานยากๆ มาเยอะ แก้ไขปัญหาให้กับลูกค้ามาแบบนับไม่ถ้วน และตอนนี้มีลูกค้าที่ดูแลอยู่เป็นบริษัทจดทะเบียนราว ๆ 70 แห่ง คิดอะไรไม่ออก (เรื่องงาน IR-PR) บอก “ไออาร์ เน็ตเวิร์ค” ได้เลยค่ะ