บทความน่ารู้จาก CEO

บางบริษัทคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นเท่าไหร่ "มีก็ได้-ไม่มีก็ได้" แต่สำหรับดิฉันเห็นว่าเรื่อง "นักลงทุนสัมพันธ์" จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้น สามารถที่จะจำแนกประโยชน์ให้เห็นภาพที่ชัดได้มากมาย ที่ผ่านมา "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" เคยทำแบบสำรวจจากนักลงทุน 500 ตัวอย่าง ถามว่า..หากเกิดภาวะวิกฤติหรือถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจขายหุ้น จะตัดสินใจขายหุ้นแบบไหนออกไปก่อน คำตอบคือ..หุ้นที่ไม่ทราบความเคลื่อนไหว หรือมีการสื่อสารข้อมูลน้อยกว่าหุ้นตัวอื่นๆ ในพอร์ต เนื่องจากเป็นการลงทุนในความมืดบอด ที่ไม่รู้ทิศทางหรือความเคลื่อนไหวใดๆ เลย เปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นที่มีข้อมูลข่าวสารที่เพียงพอ จะมีความมั่นใจมากกว่าและสามารถถือลงทุนต่อไปได้

จากคำตอบของแบบสำรวจดังกล่าวสะท้อนว่าการสื่อสารข้อมูลออกไป เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้และเข้าใจและเกิดความเชื่อมั่น ส่งผลบวกกับบริษัทและผู้บริหารโดยตรง ส่วนประโยชน์มากมายจากการทำงาน"นักลงทุนสัมพันธ์" สามารถแยกย่อยละเอียด ดังนี้

1. ช่วยให้ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น จะต้องพิจารณาจากหลายๆ องค์ประกอบเข้าด้วยกัน อาทิ ผลประกอบการ ศักยภาพการทำกำไร แนวโน้มธุรกิจในอนาคต เป็นต้น ซึ่งผลประเมินจะบอกราคาหุ้นที่เหมาะสมว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาในตลาดที่ซื้อขายอยู่ ณ ขณะนั้น โดยนักลงทุนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่ ถ้าราคาตลาดต่ำกว่าราคาที่แท้จริงนักลงทุนมักนิยมเข้ามาลงทุน

2. ช่วยลดต้นทุนการเงิน
เมื่อนักลงทุนเข้าใจธุรกิจของบริษัท ในอนาคตหากต้องการระดมทุนเพิ่มขึ้น นักลงทุนจะใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่นานนักและมีโอกาสที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในราคาที่ใกล้เคียงกับ Fair value เพราะนักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจและแนวโน้มของบริษัทมาในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งก็รวมถึงการออกเสนอขายหุ้นกู้ หรือระดมทุนในรูปแบบอื่นๆ จะทำได้ง่ายขึ้น

3. สร้างสภาพคล่องให้กับหุ้น
การเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลออกไปจะให้นักลงทุนรู้จักบริษัท ผู้บริหาร และหุ้นของบริษัทมากขึ้น เมื่อมีความเข้าใจและมั่นใจเข้ามาซื้อหุ้นจะทำให้หุ้นมีสภาพคล่อง

4. ช่วยหลีกเลี่ยงการถูกครอบงำกิจการ
การที่หุ้นมีสภาพคล่องและราคาหุ้นใกล้เคียงหรือสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น จะช่วยให้กิจการไม่ถูกครอบงำได้ง่าย และไม่ถูกครอบงำในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น

5. ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์
งาน "นักลงทุนสัมพันธ์" คือการสื่อสารสองทาง นอกจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทและผู้บริหารขององค์กรแล้ว อีกอย่างหนึ่งจะได้รับคือการสะท้อนกลับของข้อมูล จากการรับฟังความเห็นและมุมมองจากภายนอก ได้แก่ นักวิเคราะห์ และนักลงทุนสถาบัน ที่จะเป็นมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจ แนวโน้มอุตสาหกรรม และข้อบกพร่องของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้บริษัทนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการดำเนินงานให้ดีขึ้น

สรุปแล้วงาน "นักลงทุนสัมพันธ์" เกี่ยวข้องกับข้อมูลและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ใช่การประชาสัมพันธ์ทั่วไปต่อสาธารณะ หากได้ทีมงานที่เป็นมืออาชีพ มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะบวกประสบการณ์ทำงานจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์สูงสุด